พลอย เป็นอัญมณีที่มีความงดงามและมูลค่าสูง สีสันของพลอยเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดราคาและคุณค่า การประเมินสีพลอยอย่างแม่นยำจึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับนักอัญมณีวิทยา นักสะสม และผู้ค้าพลอย ในอดีต การประเมินสีพลอยพึ่งพาการสังเกตด้วยตาเปล่าและความชำนาญของผู้เชี่ยวชาญ แต่ในยุคปัจจุบัน นักอัญมียุคใหม่ใช้ เทคโนโลยีสเปกโตรมิเตอร์ (Spectrometer) เพื่อวิเคราะห์สี พลอยได้อย่างแม่นยำและมีมาตรฐาน
บทความนี้จะพาไปสำรวจ หลักการทำงานของสเปกโตรมิเตอร์ การวิเคราะห์สีพลอย เทคนิคการใช้งาน และประโยชน์ต่อการประเมินคุณภาพพลอย
สีของพลอยเกิดจาก การดูดซับและการสะท้อนแสงของโครงสร้างผลึกและธาตุเจือปน
พลอยใสบริสุทธิ์ เช่น ควอตซ์ใส ไม่มีสี
พลอยที่มีธาตุเจือปน เช่น โครเมียม เหล็ก ไทเทเนียม หรือวานาเดียม จะมีสีแดง เขียว น้ำเงิน หรือม่วง
การสะท้อนและการดูดซับแสงในช่วงคลื่นเฉพาะของผลึกทำให้เกิดสีสันที่เป็นเอกลักษณ์
ตัวอย่าง:
ทับทิมสีแดงเกิดจากโครเมียมเจือปน
ไพลินสีน้ำเงินเกิดจากเหล็กและไทเทเนียม
มรกตสีเขียวเกิดจากโครเมียมและวานาเดียม
การเข้าใจหลักฟิสิกส์ของสีเป็นพื้นฐานสำคัญก่อนใช้เทคโนโลยีสเปกโตรมิเตอร์
สเปกโตรมิเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่วัด ความเข้มของแสงตามความยาวคลื่นต่าง ๆ
แสงที่ตกกระทบพลอยจะถูกแยกเป็นคลื่นต่าง ๆ
สเปกโตรมิเตอร์บันทึกปริมาณแสงที่ถูกดูดซับและสะท้อน
ข้อมูลที่ได้เรียกว่า สเปกตรัม (Spectrum) แสดงถึงสีและองค์ประกอบของพลอย
สเปกโตรมิเตอร์ช่วยให้นักอัญมียุคใหม่สามารถ:
แยกความแตกต่างของสีพลอยที่สายตาอาจมองไม่เห็น
ระบุธาตุเจือปนที่สร้างสี
ตรวจสอบความแท้ของพลอยธรรมชาติและพลอยสังเคราะห์
พลอยต้องสะอาดและปราศจากฝุ่นหรือคราบมัน
พลอยสามารถวัดทั้งแบบ ผลึกดิบ และ เจียระไนแล้ว
การจัดตำแหน่งพลอยให้สอดคล้องกับแหล่งกำเนิดแสงมีผลต่อความแม่นยำของผลลัพธ์
สเปกโตรมิเตอร์มีหลายชนิด ขึ้นอยู่กับชนิดพลอยและข้อมูลที่ต้องการ:
UV-Vis Spectroscopy: วัดการดูดซับแสงในช่วง ultraviolet และ visible เหมาะสำหรับวิเคราะห์สีและธาตุเจือปน
IR Spectroscopy: วัดการดูดซับในช่วง infrared เพื่อศึกษาการสั่นสะเทือนของผลึกและโครงสร้าง
Raman Spectroscopy: ระบุองค์ประกอบของพลอยและตรวจสอบความแตกต่างระหว่างพลอยธรรมชาติและสังเคราะห์
XRF (X-ray Fluorescence): วิเคราะห์ธาตุเจือปนที่สร้างสีของพลอย
สเปกตรัมจะแสดง ช่วงความยาวคลื่นที่พลอยดูดซับแสง
สีพลอยเกิดจาก ความเข้มและตำแหน่งของการดูดซับในสเปกตรัม
ตัวอย่าง:
ทับทิมสีแดงมีแถบการดูดซับที่ 400–500 นาโนเมตร
ไพลินสีน้ำเงินมีแถบการดูดซับที่ 500–600 นาโนเมตร
การวิเคราะห์สเปกตรัมช่วยให้สามารถระบุชนิดพลอยอย่างแม่นยำและประเมินคุณภาพสี
นักอัญมียุคใหม่สามารถใช้สเปกโตรมิเตอร์ ระบุสีและความบริสุทธิ์ ของพลอย
พลอยที่มีสีสวยและสม่ำเสมอมักมีมูลค่าสูง
ข้อมูลจากสเปกโตรมิเตอร์ช่วย ลดความผิดพลาดในการประเมินด้วยสายตา
พลอยธรรมชาติและสังเคราะห์อาจมีสีใกล้เคียงกัน แต่สเปกตรัมมักแตกต่าง
การวิเคราะห์สเปกตรัมช่วยตรวจสอบ ความแท้และแหล่งกำเนิด
ตัวอย่าง: พลอยไพลินสังเคราะห์อาจมีแถบการดูดซับไม่ตรงกับพลอยธรรมชาติ
การวิเคราะห์ธาตุเจือปน เช่น โครเมียม เหล็ก ไทเทเนียม วานาเดียม ช่วยระบุ แหล่งกำเนิดของพลอย
นักวิจัยสามารถติดตาม คุณภาพสีตามแหล่งกำเนิด เช่น ทับทิมพม่า มรกตโคลอมเบีย ไพลินศรีลังกา
การใช้สเปกโตรมิเตอร์ทำให้การประเมินสีพลอย เป็นมาตรฐานสากล
ลดข้อผิดพลาดจากการประเมินด้วยสายตา
พลอยที่วิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยีสามารถ ออกใบรับรองคุณภาพ
ผู้ซื้อและนักสะสมมั่นใจในคุณค่าและความแท้ของพลอย
นักวิจัยใช้สเปกโตรมิเตอร์เพื่อ ควบคุมสีของพลอยสังเคราะห์
สามารถผลิตพลอยสวยงามที่มีสีและประกายใกล้เคียงกับพลอยธรรมชาติ
การวัดสีพลอยต้องควบคุม แหล่งกำเนิดแสง มุมตกกระทบ และความสะอาด
พลอยบางชนิดอาจมี การเปลี่ยนสีเมื่อมองในมุมต่างหรือแสงต่าง
การวิเคราะห์สเปกโตรมิเตอร์ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการอ่านผลสเปกตรัม
การวิเคราะห์สีพลอยด้วยเทคโนโลยี สเปกโตรมิเตอร์ เป็นวิธีการของนักอัญมียุคใหม่ที่ช่วยให้การประเมินพลอยมี ความแม่นยำและมาตรฐานสากล
พลอยแต่ละชนิดมีสีสันเฉพาะตัวที่เกิดจาก ธาตุเจือปนและโครงสร้างผลึก
การใช้สเปกโตรมิเตอร์ช่วยระบุ สี ธาตุเจือปน แหล่งกำเนิด และความแท้ ของพลอย
นักอัญมียุคใหม่สามารถประเมินมูลค่าพลอยอย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงและสร้างความเชื่อมั่นในตลาด
สรุปได้ว่า พลอยไม่เพียงเป็นอัญมณีที่งดงาม แต่ยังสะท้อนถึง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และความเป็นมืออาชีพของนักอัญมียุคใหม่ การใช้สเปกโตรมิเตอร์ในการวิเคราะห์สีพลอยเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การประเมินมีมาตรฐานและยั่งยืน
พลอย แท้