พลอย เป็นอัญมณีที่มนุษย์ให้คุณค่าอย่างสูงทั้งในด้านความงาม มูลค่า และความหมายเชิงสัญลักษณ์ ความโดดเด่นของพลอยไม่ได้เกิดจากสี ความใส หรือการเจียระไนเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึง ปรากฏการณ์ทางแสง ที่บางครั้งสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าหรือภายใต้แสงอัลตราไวโอเลต หนึ่งในปรากฏการณ์สำคัญทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับพลอยคือ fluorescence หรือการเรืองแสง
ปรากฏการณ์ fluorescence เป็นตัวบ่งชี้ความเป็นธรรมชาติของพลอย ช่วยให้นักอัญมณีวิทยาและนักสะสมสามารถประเมินคุณภาพและแหล่งกำเนิดของพลอยได้ การทำความเข้าใจปรากฏการณ์นี้จึงสำคัญทั้งในแง่เชิงวิทยาศาสตร์และการประเมินมูลค่าของพลอย
Fluorescence คือปรากฏการณ์ที่วัสดุสามารถ ดูดซับพลังงานจากแสงบางช่วง และปล่อยพลังงานนั้นออกมาในรูปของแสงที่มีความยาวคลื่นต่างออกไป ตัวอย่างเช่น พลอยที่ถูกส่องด้วยแสงอัลตราไวโอเลต (UV) บางชนิดอาจเรืองแสงเป็นสีแดง น้ำเงิน หรือสีเขียว
ในพลอย ปรากฏการณ์ fluorescence เกิดขึ้นจาก ธาตุเจือปน (trace elements) ภายในผลึก เช่น โครเมียม (Cr³⁺) ในทับทิม หรือธาตุยูเรเนียมในพลอยบางชนิด ธาตุเหล่านี้ทำหน้าที่เป็น activators ทำให้พลอยสามารถเรืองแสงเมื่อได้รับพลังงานจากแสง UV
ปรากฏการณ์ fluorescence ไม่เกิดขึ้นเหมือนกันในพลอยทุกชนิด แต่มีความแตกต่างตามองค์ประกอบทางเคมีและโครงสร้างผลึก
ทับทิมเป็นพลอยที่มี fluorescence เด่นที่สุด ส่วนใหญ่จะเรืองแสงสีแดงสดเมื่อส่องด้วย UV light ซึ่งเกิดจากธาตุโครเมียมที่เจือปนอยู่ในผลึก fluorescence ของทับทิมช่วยยืนยันความเป็นธรรมชาติและบางครั้งยังช่วยเพิ่มความสวยงามใต้แสง UV
เพชรบางชนิดมี fluorescence สีฟ้าอ่อนถึงฟ้าเข้ม fluorescence ในเพชรอาจส่งผลต่อสีที่สังเกตได้ด้วยตาเปล่า โดยเพชรบางเม็ดที่มี fluorescence มากอาจดูขาวอมฟ้า ในขณะที่เพชรบางเม็ด fluorescence ไม่ส่งผลต่อสีเลย การวิเคราะห์ fluorescence ของเพชรจึงเป็นตัวช่วยประเมินคุณภาพและมูลค่า
ซาโฟร์ (Sapphire) บางชนิดเรืองแสงสีส้มหรือแดง
สปิเนล (Spinel) อาจเรืองแสงสีแดงเข้ม
แซฟไฟร์สีเหลืองหรือเขียว บางชนิดมี fluorescence สีเขียวอ่อน
ปรากฏการณ์ fluorescence สามารถบ่งบอกถึง แหล่งกำเนิดของพลอย ได้ ตัวอย่างเช่น ทับทิมจากพม่า (Myanmar) มักมี fluorescence สีแดงเด่น ในขณะที่ทับทิมจากแหล่งอื่นอาจเรืองแสงน้อยหรือไม่มีเลย
ปรากฏการณ์ fluorescence ของพลอยเกิดจาก การดูดซับพลังงานของอิเล็กตรอนในอะตอมหรือไอออนเจือปน เมื่อพลอยถูกส่องด้วยแสง UV อิเล็กตรอนจะถูกกระตุ้นไปยังระดับพลังงานที่สูงขึ้น หลังจากนั้นอิเล็กตรอนจะกลับสู่ระดับพลังงานต่ำและปล่อยพลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของแสงที่มีความยาวคลื่นต่างจากแสงต้นฉบับ
ความแตกต่างของความยาวคลื่นนี้ทำให้เกิด สีเรืองแสงเฉพาะตัว ของพลอยแต่ละชนิด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ fluorescence เป็นคุณสมบัติที่สามารถใช้จำแนกและประเมินพลอยได้
นักอัญมณีวิทยาใช้เครื่องมือและเทคนิคหลายอย่างในการวัด fluorescence ของพลอย
UV Lamp
การส่องพลอยด้วยแสง UV (ยาวคลื่น 254 nm หรือ 365 nm) เป็นวิธีพื้นฐานในการตรวจสอบการเรืองแสง
Spectrometer
ใช้วัดความยาวคลื่นของแสงที่ปล่อยออกมาจากพลอย เพื่อระบุสีและความเข้มของ fluorescence
Microscopy
การใช้กล้องจุลทรรศน์ช่วยตรวจสอบตำแหน่งและชนิดของ activators ภายในผลึกพลอย
การวัด fluorescence ไม่เพียงช่วยระบุชนิดของพลอย แต่ยังช่วยแยก พลอยธรรมชาติ จาก พลอยสังเคราะห์ เพราะพลอยสังเคราะห์มักมีลักษณะการเรืองแสงที่แตกต่างจากพลอยธรรมชาติ
ปรากฏการณ์ fluorescence ส่งผลต่อ คุณภาพและมูลค่าของพลอย ในหลายกรณี
ทับทิมและพลอยสีแดง
ทับทิมที่มี fluorescence สีแดงเด่นมักมีมูลค่าสูง เนื่องจากช่วยเพิ่มความสดใสและสีแดงของผลึก
เพชร
fluorescence ของเพชรมีผลต่อการประเมินราคาเพชรเม็ดใส เพชรที่มี fluorescence มากเกินไปบางครั้งถูกลดราคาลง แต่เพชรบางเม็ดที่มี fluorescence อ่อนและสีสวยอาจได้ราคาสูงขึ้น
พลอยสีน้ำเงินและสีเขียว
การเรืองแสงบางครั้งช่วยเพิ่มมูลค่าโดยทำให้สีของพลอยดูสดใสขึ้นในแสงธรรมชาติ
ในศาสตร์ ฮวงจุ้ย พลอยที่มี fluorescence ถูกมองว่ามีพลังงานเฉพาะตัว สามารถสะท้อนพลังงานบวกและเสริมโชคลาภให้แก่ผู้ครอบครอง ตัวอย่างเช่น
ทับทิมเรืองแสงสีแดง: เชื่อว่าเสริมพลังชีวิตและความมั่งคั่ง
ไพลินเรืองแสงสีฟ้า: เชื่อว่าเสริมปัญญาและความสงบ
การวางพลอยที่มี fluorescence ในตำแหน่งที่เหมาะสมช่วยเพิ่มพลังงานดีและความสวยงามไปพร้อมกัน
นอกจากการประเมินคุณค่าและความงามของพลอยแล้ว fluorescence ยังมีบทบาทในงานวิจัยและวิทยาศาสตร์
การระบุแหล่งกำเนิดของพลอย
นักอัญมณีวิทยาสามารถใช้ fluorescence เป็นตัวบ่งชี้แหล่งกำเนิดของพลอย เช่น ทับทิมพม่า ทับทิมศรีลังกา หรือเพชรจากแอฟริกา
การแยกพลอยธรรมชาติและสังเคราะห์
พลอยสังเคราะห์มักมีรูปแบบการเรืองแสงที่ต่างจากพลอยธรรมชาติ การวิเคราะห์ fluorescence จึงช่วยป้องกันการปลอมแปลง
การประยุกต์ทางวัสดุศาสตร์
การศึกษาการเรืองแสงของพลอยช่วยให้นักวิจัยเข้าใจคุณสมบัติของผลึกและการจัดเรียงอะตอม ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ในการพัฒนาวัสดุเรืองแสงหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ปรากฏการณ์ fluorescence เป็นคุณสมบัติสำคัญของ พลอย ที่สะท้อนทั้งความงาม คุณค่า และความเป็นธรรมชาติของอัญมณี ปรากฏการณ์นี้เกิดจากการดูดซับและปล่อยพลังงานของอะตอมหรือไอออนเจือปนภายในผลึก ทำให้พลอยสามารถเรืองแสงภายใต้แสง UV
การประเมิน fluorescence ช่วยให้นักอัญมณีวิทยาและนักสะสมสามารถจำแนกชนิดของพลอย ระบุแหล่งกำเนิด แยกพลอยธรรมชาติจากสังเคราะห์ และประเมินมูลค่าพลอยได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ การสังเกตและการใช้ fluorescence ยังมีความสำคัญในศาสตร์ฮวงจุ้ย โดยช่วยเสริมพลังงานบวกให้แก่ผู้ครอบครอง
ดังนั้น พลอย ไม่เพียงเป็นอัญมณีที่สะท้อนความงาม แต่ยังเป็นสมบัติทางวิทยาศาสตร์ที่แฝงความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับโครงสร้าง ผลึก และการจัดเรียงอะตอม การเข้าใจปรากฏการณ์ fluorescence ช่วยให้ผู้สนใจพลอยสามารถมองเห็นความงามและคุณค่าของอัญมณีอย่างรอบด้าน
พลอย แท้