เครื่องประดับที่ประดับด้วย พลอย ถือเป็นหนึ่งในอัญมณีที่มีคุณค่าทั้งด้านความงามและมูลค่า การดูแลพลอยอย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยให้พลอยยังคงประกายสวยงามเหมือนวันแรก แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของตัวเรือนและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว นักอัญมณี (Gemologist) และผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับต่างยืนยันตรงกันว่า “การดูแลพลอยที่ถูกวิธีสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกพลอยที่มีคุณภาพ”
บทความนี้รวบรวมเทคนิคที่ใช้ได้จริง มีหลักฐานจากมาตรฐานอัญมณี และเหมาะสำหรับผู้ประกอบการร้านอัญมณี ผู้สวมใส่ทั่วไป และผู้สะสมเครื่องประดับ
แม้พลอยหลายชนิดจะมีความทนทาน เช่น ไพลิน ทับทิม หรือเพชร แต่ก็ยังมีปัจจัยที่ทำให้พลอยเสื่อมสภาพได้ เช่น
สารเคมีจากโลชั่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม
ความร้อนสูง
การกระแทก
คราบเหงื่อ ความชื้น
ตัวเรือนที่เสื่อมสภาพ
การดูแลอย่างถูกวิธีจึงไม่ใช่เรื่องเลือกทำ แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาพลอยให้คงคุณค่าตลอดหลายปี
นี่คือกฎสำคัญที่ผู้เชี่ยวชาญทุกคนเน้นย้ำ โดยเฉพาะเมื่อทำกิจกรรมเหล่านี้:
น้ำยาล้างจานมีสารเคมีที่ทำให้ผิวพลอยด้านลงได้
สบู่และแชมพูทิ้งคราบไว้ใต้ตัวเรือน ทำให้พลอยหมองง่าย
เหงื่อมีความเป็นกรด ทำให้พลอยบางชนิดเสื่อมสภาพ และอาจทำให้ตัวเรือนหลวม
การกระแทกเพียงครั้งเดียวอาจทำให้พลอยร้าว โดยเฉพาะพลอยที่มีรอยแตกธรรมชาติ เช่น มรกต
เพียงเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กน้อย ก็ช่วยยืดอายุพลอยได้หลายสิบปี
สารเคมีเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้พลอยหมองหรือผิวด้านลง โดยเฉพาะพลอยเนื้ออ่อน เช่น
โอปอล
เทอร์ควอยซ์
ลาพิสลาซูลี
มาลาไคต์
ไข่มุก
ทาน้ำหอมก่อนสวมเครื่องประดับอย่างน้อย 10–15 นาที
เช็ดโลชั่นออกจากบริเวณที่จะสวมแหวนหรือกำไล
ถอดพลอยก่อนฉีดสเปรย์ผมหรือใช้เครื่องสำอาง
สารเคมีสามารถทำให้สีพลอยเพี้ยนหรือเกิดรอยด่างถาวร ซึ่งไม่สามารถขัดให้หายเหมือนโลหะได้
พลอยหลายชนิดมีความแข็งต่างกัน หากเก็บรวมกันอาจเกิดรอยขีดได้ เช่น
ไพลินสามารถทำให้ควอตซ์หรือโทแพซเป็นรอย
เพชรสามารถขูดพลอยทุกชนิด
พลอยเนื้ออ่อนอาจเสียหายง่ายหากอยู่ข้างพลอยแข็ง
แยกช่องในกล่อง
ใช้ถุงผ้าหรือถุงกำมะหยี่
สำหรับโอปอล ให้เก็บในที่ไม่แห้งจนเกินไป
การแยกเก็บเป็นเทคนิคที่ช่วยป้องกันรอยเสียหายที่แก้ไขไม่ได้
การทำความสะอาดอย่างอ่อนโยนคือกุญแจสำคัญ
น้ำอุ่น + สบู่อ่อน
แปรงขนนุ่ม
เช็ดด้วยผ้านุ่ม
น้ำสบู่อ่อนเท่านั้น
หลีกเลี่ยงอัลตราโซนิคถ้ามีรอยภายใน
เช็ดแบบแห้งหรือหมาด
ห้ามแช่น้ำ
ห้ามโดนน้ำร้อน
ห้ามใช้น้ำยา
ใช้ผ้านุ่มเช็ดเท่านั้น
การล้างผิดวิธีอาจทำให้พลอยเสียหายถาวรโดยไม่รู้ตัว
แม้ว่าพลอยจะไม่เสียหายง่าย แต่ตัวเรือนที่ยึดพลอยอาจสึกหรือหลวมได้
เพื่อตรวจสอบ:
กรงเล็บหลวม
พลอยโยก
สกรูหรือฐานเสื่อม
ตัวเรือนร้าว
การตรวจเช็กช่วยป้องกันการ “หลุดหาย” ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดในร้านอัญมณี
พลอยบางชนิดไวต่ออุณหภูมิสูง เช่น
ควอตซ์บางชนิดอาจซีดหรือเปลี่ยนสี
โอปอลอาจแตกระแหง
อัมเบอร์อาจบิดตัว
มรกตอาจเกิดรอยในจากความร้อนสูง
การถอดเครื่องประดับพลอยก่อนเข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรือวางไว้ในรถที่ร้อนจัดคือสิ่งจำเป็น
ผู้เชี่ยวชาญมักย้ำว่า “รู้จักพลอยที่ตัวเองใส่” เพราะพลอยแต่ละชนิดมีธรรมชาติต่างกัน เช่น
แหวนพลอยเม็ดใหญ่ไม่ควรใส่ทุกวัน
พลอยเนื้ออ่อนควรใส่เฉพาะโอกาสพิเศษ
พลอยแข็ง เช่น ไพลิน เหมาะกับการใช้งานประจำ
การเลือกใช้งานให้เหมาะสมช่วยลดโอกาสการเสียหายลงมาก
การดูแล พลอย ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แต่ต้องเข้าใจธรรมชาติและความทนทานของแต่ละชนิด การหลีกเลี่ยงสารเคมี เก็บให้ถูกวิธี ล้างอย่างอ่อนโยน และตรวจเช็กตัวเรือนเป็นประจำ คือ 4 ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เครื่องประดับพลอยของคุณสวยงาม แข็งแรง และยังคงคุณค่าไปอีกหลายสิบปี
พลอย แท้