การเจียระไนพลอย คือกระบวนการ ตัด เจีย และขัดผิวพลอย เพื่อให้เกิดรูปทรงและประกายแสงที่สวยงาม โดยทั่วไปแบ่งเป็นสองส่วนหลัก:
การตัดทรง (Shaping/Cutting)
กำหนดรูปทรงของพลอย เช่น ทรงรี, ทรงเหลี่ยม, ทรงหมอน
รูปทรงส่งผลต่อการสะท้อนแสงและความสวยงาม
การขัดเงา (Polishing)
ทำให้ผิวพลอยเรียบลื่นและสะท้อนแสงได้ดีที่สุด
พลอยที่ขัดเงาดีจะดูใสและเล่นไฟได้สวย
การสะท้อนแสงและประกายไฟ (Brilliance & Sparkle)
พลอยที่เจียระไนดีจะสะท้อนแสงได้เต็มที่ ทำให้ดูสดใสและมีชีวิตชีวา
ตัวอย่าง: ไพลินเจียระไนเหลี่ยมช่วยให้แสงสะท้อนทั่วเม็ด
การเน้นสีและความลึก (Color & Depth)
การเจียระไนสามารถเน้นสีของพลอยให้เข้มขึ้นหรือสม่ำเสมอมากขึ้น
ช่วยให้พลอยดูมีมิติและสวยงามขึ้น
ความสมดุลและรูปร่าง (Symmetry & Shape)
พลอยที่สมมาตรจะดูดึงดูดสายตามากขึ้น
พลอยที่เจียระไนไม่ดีอาจทำให้สีหรือแสงสะท้อนไม่สวย
พลอยเจียระไนดี = ราคาสูง
การเจียระไนที่ดีเพิ่มมูลค่าทางการเงิน เพราะทำให้พลอย สวยเด่นและเหมาะกับเครื่องประดับ
พลอยที่เจียระไนไม่ดี = ราคาต่ำลง
พลอยที่ตัดไม่สมมาตร หรือขัดเงาไม่เรียบ จะลดความงามและความน่าสนใจ
ราคาสะท้อนถึงคุณภาพการเจียระไนและความสามารถในการเล่นแสง
เจียระไนเพื่อสะสม vs เครื่องประดับ
พลอยสำหรับสะสมเน้น รักษาน้ำหนักและขนาด
พลอยสำหรับเครื่องประดับเน้น ความสวยงามและประกายแสง
ทับทิม: เจียระไนทรงเหลี่ยมช่วยเน้นสีแดงเข้มและประกายไฟ
มรกต: เจียระไนทรงรีช่วยให้สีเขียวดูลึกและสดใส
ไพลิน: การเจียระไนทรงหมอนเพิ่มประกายแสงและมิติของเม็ดพลอย
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ เลือกทรงเจียระไนที่เหมาะสมกับชนิดและสีของพลอย เพื่อให้ได้ทั้งความงามและมูลค่าที่เหมาะสม
การเจียระไนพลอยมีผลสำคัญต่อ:
ความงาม: เน้นสี สะท้อนแสง และรูปร่างสมดุล
มูลค่า: พลอยเจียระไนดีราคาสูงกว่า เพราะดึงคุณค่าของเม็ดพลอยออกมาเต็มที่
การใช้งาน: พลอยที่เจียระไนดีเหมาะกับทั้งเครื่องประดับและการสะสม
ดังนั้น การเลือกพลอยที่ดีควรคำนึงถึง คุณภาพการเจียระไน ไม่แพ้การเลือกชนิดและสีของพลอย
พลอย แท้