พลอยแท้ คือพลอยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติใต้พื้นโลก โดยไม่ได้ผ่านกระบวนการสร้างขึ้นในห้องทดลอง
คุณสมบัติสำคัญ
มีความใสและสีสันเฉพาะตัว ขึ้นอยู่กับแร่ธาตุและสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น
แต่ละเม็ดพลอยแท้จะมี ลวดลายและโทนสีไม่เหมือนกัน
มักมีราคาสูงและคุ้มค่าในการสะสม
ตัวอย่างเช่น: ทับทิม, มรกต, ไพลิน, เพชรธรรมชาติ
ข้อดี:
มีมูลค่าทางการเงินและความหายากสูง
เชื่อกันว่าพลอยแท้มีพลังงานจากธรรมชาติ
ข้อสังเกต:
อาจมีตำหนิธรรมชาติ (Inclusions)
ต้องใช้เครื่องมือหรือผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความแท้
พลอยสังเคราะห์ คือพลอยที่เกิดจาก กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในห้องทดลอง แต่มีคุณสมบัติทางเคมีและโครงสร้างเหมือนกับพลอยแท้
คุณสมบัติสำคัญ
มีความใสและสีสันสม่ำเสมอมากกว่า
ราคาถูกกว่าพลอยแท้ แต่คุณภาพด้านโครงสร้างเหมือนกัน
สามารถผลิตได้ในปริมาณมาก
ตัวอย่างเช่น: ทับทิมสังเคราะห์, มรกตสังเคราะห์, ไพลินสังเคราะห์
ข้อดี:
สีสวยใส สม่ำเสมอ
ราคาเข้าถึงง่าย
ไม่มีตำหนิธรรมชาติ
ข้อสังเกต:
พลังงานตามความเชื่ออาจไม่เท่ากับพลอยแท้
ต้องมีการระบุชัดเจนว่าเป็นพลอยสังเคราะห์
พลอยเทียม คือวัสดุที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อ เลียนแบบสีและรูปลักษณ์ของพลอยแท้ แต่ไม่ใช่พลอยแท้หรือสังเคราะห์
คุณสมบัติสำคัญ
ทำจากแก้ว, พลาสติก หรือวัสดุอินทรีย์อื่น ๆ
ราคาถูกมาก แต่คุณภาพและความทนทานต่ำ
ดูคล้ายพลอยแท้ด้วยตาเปล่า แต่ตรวจสอบด้วยเครื่องมือจะเห็นความแตกต่างชัด
ตัวอย่างเช่น: พลอยแก้ว, พลอยอะคริลิก, พลอยเรซิ่น
ข้อดี:
ราคาถูกและสามารถใช้ประดับชิ้นใหญ่ได้
เหมาะกับเครื่องประดับแฟชั่น
ข้อสังเกต:
ไม่สามารถใช้แทนค่าพลอยแท้ในเชิงสะสมหรือการลงทุน
พลังงานหรือความเชื่อในพลอยแท้มักไม่เกิดกับพลอยเทียม
ตรวจสอบด้วยเครื่องมือผู้เชี่ยวชาญ
ใช้กล้องขยาย, โคมไฟหรือเครื่องมือวิเคราะห์ทางแร่ธาตุ
สอบถามแหล่งที่มาชัดเจน
ร้านค้าที่น่าเชื่อถือมักระบุว่าพลอยแท้, สังเคราะห์ หรือเทียม
พิจารณาราคาและคุณภาพ
ราคาถูกมากเกินไปอาจเป็นพลอยเทียม
สังเกตตำหนิและความสม่ำเสมอ
พลอยแท้มักมีตำหนิธรรมชาติเล็กน้อย
พลอยสังเคราะห์ใสและสม่ำเสมอ
พลอยแท้: เกิดตามธรรมชาติ, มีมูลค่าและพลังงานสูง
พลอยสังเคราะห์: ทำในห้องทดลอง, คุณภาพเหมือนแท้แต่ราคาถูก
พลอยเทียม: วัสดุเลียนแบบ, ราคาถูกแต่คุณภาพต่ำ
การรู้จักประเภทของ พลอย จะช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเลือกให้เหมาะกับ งบประมาณ การสะสม การลงทุน หรือการใช้ประดับสวยงาม
พลอย แท้