ความแตกต่างระหว่างสถานะของพลอยกับแร่แรเอิร์ธในจีนสามารถอธิบายได้ด้วยปัจจัยทางธรณีวิทยา การเมือง และเศรษฐกิจ
จีนเป็นประเทศที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่และมีความหลากหลายทางธรณีวิทยา จึงมีแหล่งแร่รัตนชาติหลายประเภท ซึ่งรวมถึงพลอย ที่มีคุณภาพการผลิตในบางพื้นที่
แหล่งพลอยที่สำคัญ: จีนมีการผลิต เพชร ในมณฑลเหลียวหนิง กุ้ยโจว และซินเจียง มีการค้นพบ แซฟไฟร์ ในมณฑลชานตง และ ทับทิม มรกต ทัวร์มาลีน อะความารีน โทแพซ และโกเมน ในมณฑลยูนนาน
อัญมณีที่โดดเด่นของจีน: หยก (เนไฟรต์) และ ไข่มุกน้ำจืด เป็นอัญมณีที่จีนครองความเป็นผู้นำมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะไข่มุกน้ำจืดที่จีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในโลก ความผูกพันของชาวจีนกับหยกมีมายาวนานกว่า 8,000 ปี ทำให้หยกเป็นสัญลักษณ์ของความอดทน ความแข็งแกร่ง และความงาม
คุณภาพพลอย: แม้จะมีแหล่ง พลอย หลากหลาย แต่คุณภาพของ พลอย ในจีนส่วนใหญ่อาจมีความแตกต่างไปจากแหล่ง พลอย ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ทับทิมพม่าหรือแซฟไฟร์ศรีลังกา อย่างไรก็ตาม ด้วยฐานการผลิตเครื่องประดับที่ใหญ่โต จีนได้กลายเป็น ศูนย์กลางการแปรรูปอัญมณีและเครื่องประดับ ที่นำเข้า พลอย คุณภาพสูงจากทั่วโลกมาตัดและเจียระไนเพื่อส่งออกและตอบสนองตลาดภายในประเทศ
สาเหตุที่แร่แรเอิร์ธมีความโดดเด่นระดับโลก ในขณะที่พลอย ไม่ได้เป็นเช่นนั้น มาจากความแตกต่างในด้านยุทธศาสตร์และการดำเนินงาน
พลอย: การก่อตัวของ พลอย ที่มีคุณภาพสูงต้องใช้สภาวะทางธรณีวิทยาที่จำเพาะเจาะจงและหายาก เช่น การพบส่วนประกอบที่ไม่ปกติที่ทำให้เกิดสีที่สวยงาม การมีช่องว่างในการเติบโตของผลึกขนาดใหญ่ และการไม่ถูกทำลายจากความร้อนหรือความดันหลังการก่อตัว
แร่แรเอิร์ธ (Rare Earth Elements - REEs): แร่เหล่านี้มีอยู่จริงในหลายประเทศ แต่การสะสมตัวของแร่แรเอิร์ธในปริมาณมากและง่ายต่อการทำเหมืองแบบประหยัดต้นทุนนั้นเกิดขึ้นอย่างโดดเด่นในจีน (โดยเฉพาะมองโกเลียใน) ซึ่งจีนได้พัฒนาเทคโนโลยีการสกัดและแปรรูปแบบครบวงจร (ตั้งแต่การขุดจนถึงการทำให้บริสุทธิ์)
รัฐบาลจีนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของแร่แรเอิร์ธ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง (ชิป, รถยนต์ไฟฟ้า, ขีปนาวุธ) ทำให้มีการ สนับสนุนการทำเหมืองแร่แรเอิร์ธอย่างมหาศาล โดยลงทุนในเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ครบวงจร สิ่งนี้ทำให้จีนครองตลาดแร่แรเอิร์ธโลกได้ถึง 70%
ในทางกลับกัน แม้ว่าอุตสาหกรรมพลอย จะมีความสำคัญ แต่ก็ถือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย (Luxury Goods) และไม่ได้ถูกจัดอยู่ในยุทธศาสตร์ความมั่นคงหรือเทคโนโลยีขั้นสูงในระดับเดียวกับแร่แรเอิร์ธ
การสกัดแร่แรเอิร์ธเป็นกระบวนการที่ ก่อมลพิษรุนแรง ซึ่งหลายประเทศตะวันตกเลือกที่จะหลีกเลี่ยงหรือไม่สามารถจัดการได้เนื่องจากข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด ทำให้จีนสามารถเข้ามากำกับดูแลและผลิตในปริมาณมากได้โดยมีต้นทุนต่ำกว่า
อุตสาหกรรมพลอย แม้จะสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน แต่ไม่ได้อยู่ในระดับที่มีความซับซ้อนและมีผลกระทบทางสารกัมมันตรังสีเหมือนการสกัดแร่แรเอิร์ธ ทำให้การแข่งขันในตลาด พลอย เป็นไปตามปัจจัยด้านคุณภาพ ความหายาก และความเชี่ยวชาญในการแปรรูป
แม้ว่าจีนจะไม่ได้เป็นแหล่ง พลอย คุณภาพสูงอันดับหนึ่งของโลก แต่จีนก็ครองสถานะสำคัญในอุตสาหกรรมอัญมณีโลกในฐานะผู้แปรรูปและผู้บริโภครายใหญ่
ศูนย์กลางการแปรรูป: มณฑลกวางตุ้ง (โดยเฉพาะเมืองพานหยู) เป็นฐานการผลิตเครื่องประดับชั้นนำในจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีโรงงานแปรรูปหลายพันแห่งที่นำเข้า พลอย จากทั่วโลกมาสร้างมูลค่าเพิ่ม นี่แสดงถึงความเชี่ยวชาญ (Expertise) ด้านการเจียระไนและการผลิตเครื่องประดับของจีน
ตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่: ด้วยจำนวนชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จีนได้กลายเป็นตลาดผู้ซื้อ พลอย สีคุณภาพสูงรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ความนิยมใน พลอย สีสันสดใส เช่น ทัวร์มาลีน แทนซาไนต์ และแซฟไฟร์ กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประเทศจีนมีแหล่งแร่พลอยอย่างแน่นอน แต่บทบาทของจีนในตลาดโลกนั้นแตกต่างกัน:
แร่แรเอิร์ธ: จีนเป็น ผู้ผลิตและผู้ควบคุมห่วงโซ่อุปทาน โลก เนื่องจากความได้เปรียบทางธรณีวิทยา การลงทุนด้านเทคโนโลยี และการสนับสนุนเชิงยุทธศาสตร์ของรัฐบาล
พลอย: จีนเป็น แหล่งวัตถุดิบที่หลากหลาย (โดยเฉพาะหยกและไข่มุก) และเป็น ศูนย์กลางการแปรรูปและตลาดผู้บริโภครายใหญ่ ของโลก ซึ่งนำเข้า พลอย คุณภาพสูงจากต่างประเทศมาสร้างสรรค์เครื่องประดับเพื่อการบริโภคภายในประเทศและการส่งออก
ดังนั้น คำถามที่ว่า "ทำไมไม่มีเหมืองพลอย" จึงไม่เป็นความจริง แต่คำตอบที่ถูกต้องคือ "ทำไม พลอย ของจีนจึงไม่ได้โดดเด่นเท่าแร่แรเอิร์ธ" ซึ่งเป็นผลมาจากความแตกต่างของความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์และคุณภาพของแร่ที่ถูกจัดสรรทรัพยากรไปลงทุน
พลอย แท้