คำถามที่ว่า พลอยฟลูออไรต์ (Fluorite Gemstone) เหมือนกับ ฟลูออไรด์ (Fluoride) ที่ใช้ในการเคลือบฟันหรือไม่ เป็นคำถามที่ยอดเยี่ยม เพราะมีความเกี่ยวข้องกันทางเคมีอย่างลึกซึ้ง แต่มีบทบาทและการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง พลอยฟลูออไรต์ เป็นแร่ธาตุที่ถูกนำมาใช้เป็นอัญมณีและหินประดับ ส่วน ฟลูออไรด์ ในทางการแพทย์และทันตกรรมคือสารประกอบที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของฟัน
คำตอบสรุปสั้น ๆ คือ ไม่เหมือนกัน ในแง่ของการนำไปใช้และคุณสมบัติทางกายภาพ แต่มีความเกี่ยวข้องกันทางเคมีอย่างแยกไม่ออก บทความนี้จะเจาะลึกองค์ประกอบทางเคมี ความแตกต่างด้านคุณสมบัติ และการใช้งานของสารทั้งสองประเภทนี้ในวงการอัญมณีและทันตกรรม
พลอยฟลูออไรต์ มาจากแร่ที่มีชื่อว่า ฟลูออไรต์ (Fluorite) ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีองค์ประกอบทางเคมีคือ แคลเซียมฟลูออไรด์ โดยมีสูตรเคมีคือ $\text{CaF}_2$
องค์ประกอบทางเคมี: แคลเซียมฟลูออไรด์ ($\text{CaF}_2$)
คุณสมบัติเด่น: พลอยฟลูออไรต์ขึ้นชื่อเรื่องสีสันที่หลากหลายและสวยงาม (สีม่วง เขียว น้ำเงิน เหลือง และไม่มีสี) รวมถึงปรากฏการณ์ "ฟลูออเรสเซนซ์" (Fluorescence) ซึ่งคือการเรืองแสงภายใต้แสงอัลตราไวโอเลต (ชื่อปรากฏการณ์นี้มาจากชื่อแร่นี้เอง)
ข้อจำกัด: เป็น พลอย ที่ค่อนข้างอ่อน โดยมีความแข็งเพียง $4$ บนสเกลโมห์ ทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย และไม่นิยมนำมาทำเครื่องประดับที่ต้องใช้งานหนักในชีวิตประจำวัน แต่ถูกใช้เป็นหินประดับ, งานแกะสลัก, และอัญมณีสำหรับสะสม
ความเกี่ยวข้อง: ฟลูออไรต์ในรูปแบบผลึกที่สวยงามและมีความโปร่งแสงจะถูกคัดแยกออกมาเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอัญมณีและหินบำบัด
ฟลูออไรต์ที่ไม่ได้มีคุณภาพเป็น พลอย จะถูกใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น:
เป็นฟลักซ์ในการผลิตเหล็กและโลหะอื่น ๆ
ใช้ในการผลิตกรดไฮโดรฟลูออริก (Hydrofluoric Acid, HF) ซึ่งเป็นสารเคมีสำคัญ
ใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตแก้วและเซรามิก
คำว่า ฟลูออไรด์ (Fluoride) ที่ใช้ในการเคลือบฟันหรือผสมในยาสีฟันนั้น ไม่ได้หมายถึง พลอยฟลูออไรต์ โดยตรง แต่หมายถึง ไอออนของฟลูออรีน ($F^-$) หรือ สารประกอบใดๆ ที่มีฟลูออรีน ซึ่งสามารถละลายน้ำได้และพร้อมที่จะทำปฏิกิริยาทางเคมี
ฟลูออไรด์ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ทันตกรรมมักเป็นสารประกอบที่ละลายน้ำได้ดีกว่าแคลเซียมฟลูออไรด์ ($\text{CaF}_2$) เช่น:
โซเดียมฟลูออไรด์ ($\text{NaF}$) (Sodium Fluoride)
สแตนนัสฟลูออไรด์ ($\text{SnF}_2$) (Stannous Fluoride)
แอซิดูเลเต็ดฟอสเฟตฟลูออไรด์ (APF)
ฟลูออไรด์ทำงานโดยการเข้าสู่ผิวเคลือบฟัน (Enamel) และทำปฏิกิริยาทางเคมีกับแร่ธาตุหลักของเคลือบฟันคือไฮดรอกซีอะพาไทต์ ($\text{Ca}_{10}(\text{PO}_4)_6(\text{OH})_2$)
ผลลัพธ์คือการเปลี่ยนโครงสร้างผิวเคลือบฟันให้กลายเป็น ฟลูออโรอะพาไทต์ ($\text{Ca}_{10}(\text{PO}_4)_6F_2$) (Fluoroapatite) ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ แข็งแรงกว่า และ ทนทานต่อกรด ที่เกิดจากแบคทีเรียในช่องปากได้ดีกว่าไฮดรอกซีอะพาไทต์ดั้งเดิม
จุดร่วมเพียงอย่างเดียวคือการมี ธาตุฟลูออรีน เป็นองค์ประกอบหลัก
พลอยฟลูออไรต์: คือแคลเซียมฟลูออไรด์ ($\text{CaF}_2$) ในรูปของ ผลึกแร่ธาตุ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
ฟลูออไรด์เคลือบฟัน: คือ สารประกอบฟลูออไรด์ที่ละลายน้ำได้ ซึ่งถูกสังเคราะห์ขึ้นเพื่อใช้ในการสร้าง ฟลูออโรอะพาไทต์ ในผิวเคลือบฟันของมนุษย์
| ลักษณะ | พลอยฟลูออไรต์ (Fluorite Gemstone) | ฟลูออไรด์เคลือบฟัน (Dental Fluoride) |
| รูปแบบ | ผลึกแร่ธาตุ (แคลเซียมฟลูออไรด์) | สารประกอบละลายน้ำ (โซเดียมฟลูออไรด์ ฯลฯ) |
| ความแข็ง | อ่อนมาก (4 โมห์) | ไม่มีค่าความแข็ง เพราะเป็นสารเคมีที่ใช้ทำปฏิกิริยา |
| คุณสมบัติ | ความสวยงามของสี, การเรืองแสง | การเสริมความแข็งแรงของเคลือบฟัน, การต้านทานกรด |
| การใช้งานหลัก | อัญมณี, หินบำบัด, งานแกะสลัก | ป้องกันฟันผุ, เสริมสร้างเคลือบฟัน |
แม้ว่า พลอยฟลูออไรต์ และ ฟลูออไรด์ ที่ใช้ในทันตกรรมจะมีต้นกำเนิดร่วมกันจากธาตุฟลูออรีน แต่บทบาทของทั้งสองนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง:
พลอยฟลูออไรต์ ถูกเลือกมาเพื่อความงามทางกายภาพและคุณค่าทางอัญมณี แต่มีความอ่อนแอทางโครงสร้าง ทำให้ต้องระมัดระวังในการใช้งาน
ฟลูออไรด์ ที่ใช้ทางการแพทย์ถูกเลือกมาเพื่อคุณสมบัติทางเคมีในการทำปฏิกิริยากับฟัน โดยมีจุดประสงค์หลักคือ การเสริมความแข็งแรงและความทนทานต่อการผุ
ดังนั้น พลอยฟลูออไรต์ จึงเป็นสัญลักษณ์ของความงามตามธรรมชาติ (แม้จะเปราะบาง) ในขณะที่ ฟลูออไรด์ คือสารประกอบที่มีประสิทธิภาพและเป็นส่วนสำคัญในการรักษาและป้องกันสุขภาพช่องปาก
พลอย แท้