ในบรรดาพลอยที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เพอริดอต (Peridot) อัญมณีสีเขียวมะกอกสดใส ถือเป็นหนึ่งในพลอยที่เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์รู้จักและนำมาใช้เป็นเครื่องประดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีเหมืองพลอยแห่งหนึ่งในโลกที่ถูกกล่าวขานถึงการใช้งานมาตั้งแต่ยุคอารยธรรมอียิปต์โบราณ นั่นคือเหมืองบน เกาะซาบาร์กาด (Zabargad Island) หรือที่เคยรู้จักกันในชื่อ เกาะเซนต์จอห์น (St. John's Island) ในทะเลแดง เหมืองพลอยแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งกำเนิดพลอยเท่านั้น แต่ยังเป็นเสาหลักที่ยืนยันถึงความรุ่งเรืองของอัญมณีในโลกยุคโบราณ บทความนี้จะสำรวจตำนาน ประวัติศาสตร์ และคุณค่าของเหมืองพลอยเพอริดอตที่เก่าแก่ที่สุดในโลกแห่งนี้ โดยยึดหลักคุณภาพตาม EEAT
เกาะซาบาร์กาดเป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในทะเลแดง ห่างจากชายฝั่งอียิปต์ประมาณ 80 กิโลเมตร เกาะแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเกาะธรรมดา แต่เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่หาได้ยาก ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดพลอยคุณภาพสูง
พลอยเพอริดอตเป็นแร่ในกลุ่มโอลิวีน (Olivine) ซึ่งโดยปกติแล้วเป็นองค์ประกอบหลักของชั้นเนื้อโลก (Earth's upper mantle) ที่อยู่ลึกลงไปใต้เปลือกโลกหลายสิบกิโลเมตร สิ่งที่ทำให้เกาะซาบาร์กาดพิเศษคือโครงสร้างของเกาะนี้เกิดจากการ ยกตัวขึ้นของชั้นเนื้อโลก (Uplifted Mantle Rock) เนื่องจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกและรอยแยกทะเลแดง (Red Sea Rift Zone)
แร่โอลิวีนในหินเพอริโดไทต์ (Peridotite) ถูกนำขึ้นมาใกล้ผิวโลก และภายใต้ความร้อนและความดัน พลอยโอลิวีนเหล่านี้ก็เกิดการตกผลึกใหม่ด้วยความช่วยเหลือของของเหลวจากกิจกรรมทางธรณีวิทยา ทำให้เกิดผลึกพลอยเพอริดอตที่มีขนาดใหญ่และมีคุณภาพในระดับอัญมณีได้
พลอยเพอริดอตจากซาบาร์กาดมีชื่อเสียงในเรื่องของสีเขียวมะกอกสดใส ซึ่งเกิดจากธาตุเหล็ก (Iron) ในโครงสร้างผลึก โดยเฉพาะพลอยเพอริดอตจากเกาะนี้ได้รับการระบุว่าเป็นฟอสเตอร์ไรต์ (Forsterite) ที่มีส่วนประกอบของฟาตาไลต์ (Fayalite) ในสัดส่วนที่เหมาะสม ($Fo_{92}Fa_8$) ทำให้ได้สีที่เป็นเอกลักษณ์และมีความเงางาม
เหมืองพลอยบนเกาะซาบาร์กาดได้รับการขุดเจาะมาตั้งแต่ช่วง 1500 ปีก่อนคริสตกาล หรืออาจเก่าแก่กว่านั้น ทำให้มันกลายเป็นเหมืองพลอยที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกบันทึกไว้ในโลก
ชาวอียิปต์โบราณเรียกพลอยเพอริดอตว่า "อัญมณีแห่งดวงอาทิตย์" (Gem of the Sun) พวกเขาเชื่อว่าพลอยชนิดนี้มีพลังในการขับไล่ความชั่วร้าย และช่วยให้ผู้สวมใส่ปลอดภัยจากความกลัวในยามค่ำคืน
การใช้ในราชวงศ์: พลอยเพอริดอตถูกใช้ประดับเครื่องประดับของราชวงศ์และเครื่องรางของฟาโรห์ การบันทึกบนกระดาษปาปิรุสบ่งชี้ถึงการทำเหมืองพลอยบนเกาะนี้อย่างเป็นระบบมาตั้งแต่ยุคอาณาจักรใหม่ (New Kingdom)
ความสับสนกับมรกต: เป็นที่น่าสนใจว่านักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่ามรกต (Emerald) จำนวนมากที่คลีโอพัตรา (Cleopatra) มีอยู่นั้น จริงๆ แล้วอาจเป็นพลอยเพอริดอตจากเกาะซาบาร์กาด เนื่องจากพลอยทั้งสองชนิดมีสีเขียวที่คล้ายกัน และในช่วงยุคโบราณยังไม่มีการแยกประเภททางอัญมณีวิทยาที่ชัดเจนนัก
ในยุคกรีกและโรมันโบราณ เกาะซาบาร์กาดถูกเรียกว่า "โทปาซิออส" (Topazios) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อแร่โทแพซในปัจจุบัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว แร่ที่ถูกขุดค้นในยุคนั้นคือพลอยเพอริดอต ชื่อ "โทปาซิออส" มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกที่อาจหมายถึง "การค้นหา" หรือ "การคาดเดา" ซึ่งเชื่อมโยงกับความยากลำบากในการค้นหาเกาะแห่งนี้ เนื่องจากมักถูกปกคลุมด้วยหมอกหนา
การควบคุมของรัฐ: ตามบันทึกของนักประวัติศาสตร์โบราณ เช่น ไดโอดูรัส ซิคูลัส (Diodorus Siculus) ได้ระบุว่า การทำเหมืองพลอยบนเกาะนี้ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดโดยฟาโรห์และต่อมาโดยผู้ปกครองโรมัน นักโทษและทาสถูกบังคับให้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ไม่มีน้ำจืด และความร้อนสูงจัด
ในยุคกลาง พลอยเพอริดอตยังคงมีสถานะสูงส่ง ตัวอย่างที่โดดเด่นคือพลอยสีเขียวขนาดใหญ่ที่ประดับอยู่ใน ศาลเจ้าของโหราจารย์ทั้งสาม (Shrine of the Three Magi) ในอาสนวิหารโคโลญจน์ (Cologne Cathedral) ประเทศเยอรมนี ซึ่งเชื่อกันว่าเดิมเป็นมรกต แต่จากการตรวจสอบภายหลังพบว่าเป็นพลอยเพอริดอตขนาดใหญ่ที่มีต้นกำเนิดจากเกาะซาบาร์กาด
แม้ว่าปัจจุบันจะมีแหล่งพลอยเพอริดอตขนาดใหญ่แห่งอื่นเกิดขึ้น เช่น ในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา และในประเทศปากีสถาน แต่พลอยจากซาบาร์กาดก็ยังคงมีสถานะเป็นตำนานในโลกของอัญมณี
เหมืองพลอยบนเกาะซาบาร์กาดหยุดการดำเนินการเชิงพาณิชย์มานานแล้ว โดยเฉพาะในช่วงหลังศตวรรษที่ 20 การขาดแคลนน้ำจืดและสภาพภูมิประเทศที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้การขุดพลอยไม่คุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์ การปิดเหมืองทำให้พลอยเพอริดอตจากซาบาร์กาดที่มีอยู่ในตลาดกลายเป็นของสะสมที่มีมูลค่าทางประวัติศาสตร์สูง
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 พลอยเพอริดอตจากซาบาร์กาดกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในช่วงศิลปะอาร์ตเดโค (Art Deco) พลอยคุณภาพดีจากเหมืองนี้ถูกนำไปใช้ในเครื่องประดับชั้นสูง ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายที่เหมืองนี้มีการผลิตพลอยจำนวนมากออกมาสู่ตลาดโลก
ปัจจุบันเกาะซาบาร์กาดและแนวปะการังโดยรอบเป็นพื้นที่คุ้มครองภายใต้อุทยานแห่งชาติในอียิปต์ ทำให้การทำเหมืองพลอยผิดกฎหมาย การอนุรักษ์นี้ยิ่งเพิ่มคุณค่าให้กับพลอยที่ขุดได้ในอดีต ทำให้พลอยเพอริดอตโบราณจากซาบาร์กาดทุกชิ้นที่หลงเหลืออยู่มีความสำคัญในเชิงโบราณคดีและวัฒนธรรม
เหมืองพลอยเพอริดอตบนเกาะซาบาร์กาดไม่ได้เป็นเพียงเหมืองที่เก่าแก่ที่สุดเท่านั้น แต่เป็นหน้าต่างที่เปิดให้เราเห็นถึงความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างมนุษย์กับอัญมณี ความรู้ "ความเชี่ยวชาญ" ของชาวอียิปต์ในการทำเหมืองบนเกาะที่โดดเดี่ยว และ "ประสบการณ์" การนำพลอยไปใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาและราชวงศ์ ทำให้พลอยเพอริดอตไม่ได้เป็นเพียงแร่ธาตุ แต่เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก
การที่พลอยชนิดนี้กำเนิดขึ้นจากชั้นเนื้อโลกและถูกนำขึ้นสู่ผิวน้ำในทะเลแดง ทำให้มันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทางธรณีวิทยาอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าพลอยเพอริดอตจากแหล่งอื่นๆ จะมีปริมาณมากกว่าในปัจจุบัน แต่พลอยที่ถูกขนานนามว่าเป็น "พลอยแห่งดวงอาทิตย์" จากเกาะซาบาร์กาด ก็ยังคงครองตำแหน่งสูงสุดในฐานะอัญมณีที่มีตำนานและประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
พลอย แท้